Download .pdf

ผู้นำพลอยสีของโลก

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางพลอยสีที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยเฉพาะทับทิม ไพลิน เเละมรกต ด้วยเทคนิคและนวัตกรรมเฉพาะในด้านการตั้งน้ำ การเจียระไน และการปรับปรุงคุณภาพสีพลอย ทำให้ได้พลอยที่งดงามผสานกับช่างฝีมือที่มีความชำนาญในการออกแบบ การตกเเต่งขึ้นตัวเรือนด้วยฝีมืออันประณีต นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีชื่อเสียงด้านการเจียระไนเพชร จนสามารถผลิตเเละส่งออกพลอยสีเเละเพชรเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

สุดยอดด้วยศิลปะและนวัตกรรม

จินตนาการผสานความคิดสร้างสรรค์ด้านการออกเเบบพรั่งพรูจากภาพวาดสู่งานเครื่องประดับด้วยช่างฝีมือไทย ด้วยทักษะด้านศิลปะและความเชี่ยวชาญของช่างฝีมือ รวมกับพรสวรรค์และความฉลาดหลักแหลมในการผสมผสานรูปแบบอัญมณีให้เข้ากับทองเเละเงิน ทำให้ได้ชิ้นงานที่สวยงามเป็นที่ต้องการอย่างสูงในต่างประเทศ จึงไม่น่าประหลาดใจเลยที่พ่อค้าเครื่องประดับจากทั่วโลก เล็งเห็นว่าประเทศไทยเป็นเเหล่งผลิตชิ้นงานที่มีนวัตกรรมในการออกแบบอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

การเจียระไนเเละขึ้นตัวเรือนด้วยคุณภาพสูงสุด

เหตุผลสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการผลิตอัญมณีเเละเครื่องประดับคุณภาพสูง คือการเจียระไนเเละการตกเเต่งอัญมณีเเละเครื่องประดับที่ได้มาตรฐานโลก ด้วยเเรงงานฝีมือที่มีทักษะและ ความชำนาญระดับสูงในด้านการขึ้นตัวเรือน ทำให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพที่เเน่นอน สร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจในบริการหลังการขายอีกด้วย

เครื่องประดับเงินเเนวเเฟชั่นตามสมัยนิยม

ทองเเละเงินเป็นองค์ประกอบสำคัญในอุตสาหกรรมการส่งออกอัญมณีเเละเครื่องประดับคุณภาพสูงที่กำลังเติบโต จากรูปแบบอันวิจิตรดั้งเดิมและภูมิปัญญาชั้นสูงที่สั่งสมมายาวนานของช่างฝีมือไทย ความชำนาญในการสร้างสรรค์เครี่องประดับที่ทำด้วยเงินบริสุทธิ์ ที่ออกเเบบได้ประณีตและงดงาม ปัจจุบันได้รับความสนใจจากต่างประเทศกลายเป็นคลื่นความนิยมในเครื่องประดับเงิน

ภูมิปัญญาท้องถิ่นเเละเทคโนโลยีสมัยใหม่

ประเทศไทยได้พัฒนาเทคนิคการเผาพลอยเพื่อปรับปรุงคุณภาพของพลอยสี เพิ่มสีเเละความใสสะอาดอุตสาหกรรมนี้ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีเเละเครื่องประดับที่มีห้องตรวจวิเคราะห์ อัญมณีที่มีชื่อเสียงติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก และได้รับการยอมรับจากสมาพันธ์อัญมณีและเครื่องประดับโลก นักอัญมณีศาสตร์ที่มีประสบการณ์ของสถาบนั สามารถตรวจวิเคราะห ์ จดั เเบ่งเกรด เเละตรวจสอบความเเท้ของ อัญมณี สืบค้นประเทศถิ่นกำเนิดเเละออกใบรับรองที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกเเก่ผู้ส่งออก

ชื่อเสียงของช่างฝีมือที่มีความชำนาญ

เเรงงานฝีมือไทยได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีมีทักษะพิเศษในการเจียระไน การขึ้นตัวเรือน ออกเเบบ เเละจัดเจนในเชิงช่าง แต่มีค่าเเรงอยู่ในอัตราที่สามารถเเข่งขันได้ ทำให้ประเทศไทยสามารถรองรับตลาดต่างๆ ได้หลากหลาย ตั้งเเต่สินค้าราคาถูกจนถึงสินค้าที่มีคุณภาพสูง

วิธีเลือกซื้ออัญมณีเเละเครื่องประดับ

1. ก่อนอื่น จำเป็นต้องมีความรู้พิ้นฐานเกี่ยวกับคุณลักษณะ 4 ประการ (4Cs) ของอัญมณีที่ท่านกำลังเลือกซื้อ ได้แก่ สี (Color) ความสะอาด (Clarity) การเจียระไน (Cut) เเละน้ำหนักกะรัต (Carat)

2. พ่อค้าอัญมณีเป็น C อีกตัวหนึ่งคือ Confidence/ความเชื่อมั่นพ่อค้าที่ดีมีความรู้สามารถช่วยแนะนำลูกค้าในการเลือกอัญมณีและเครื่องประดับที่เหมาะสมกับรสนิยมและงบประมาณของลูกค้า

3. อัญมณีหรือพลอยเเบ่งเป็น 2 ประเภท คืออัญมณี/พลอยเนื้อเเข็งเเละอัญมณี/พลอยเนื้ออ่อน โดยพลอยเนื้อเเข็งได้เเก่ เพชร ทับทิม ไพลินบุษราคัม มรกต ฯลฯ เเละอัญมณี/พลอยเนื้ออ่อน ได้เเก่ ทัวร์มาลีน เพริโดต์ เเทนซาไนต์ การ์เนต โอปอล สปิเนล เซอร์คอน อะความารีน ไข่มุก ฯลฯ

4. ตามปกติ พลอยเนื้ออ่อนมีคุณค่าทางการค้า ความเเข็งเเละความทนทานน้อยกว่าพลอยเนื้อแข็ง

5. พลอยหรือเพชร 2 เม็ดที่มีน้ำหนักกะรัตเท่ากัน มีมูลค่าแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสี ความสะอาด เเละการเจียระไน ดังนั้น ขอให้ตรวจสอบคุณภาพด้วยการใช้แว่นขยาย 10 เท่า โดยให้พ่อค้าอัญมณีเป็นผู้เเนะนำ

6. ให้ระมัดระวังอัญมณี/เพชรสังเคราะห์หรือของเลียนแบบ สำหรับทับทิม/ไพลิน ระวังอย่าเข้าใจผิดเเเละจ่ายเงินซื้อพลอยสีน้ำเงินชนิดอื่นเป็นไพลิน เเละพลอยสีเเดงชนิดอื่นเป็นทับทิม

7. ราคาทอง/เงิน/เเพลทินัม ขึ้นอยู่กับน้ำหนักเเละเปอร์เซนต์ของวัตถุดิบ ช่างฝีมือเเละการออกเเบบ

คำเเนะนำในการซื้อ

1. อย่าปล่อยให้คนแปลกหน้าหรือเพื่อนที่เพิ่งพบกันชักจูงให้ไปซื้อค่าคอมมิชชั่นที่ทางร้านค้าให้เเก่คนพวกนี้ ทำให้ท่านต้องจ่ายเเพงขึ้น

2. เลือกร้านค้าด้วยความระมัดระวัง ให้เเน่ใจว่ามีผู้เชี่ยวชาญอัญมณีท่านสามารถเพิ่มมูลค่าให้การช้อปปิ้งด้วยการเลือกซื้ออัญมณีจากร้านค้าสมาชิก JFC และ BWC ที่ได้รับการเเนะนำ

3. เปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ ให้เเน่ใจกับการเปรียบเทียบของที่เหมือนกัน โดยเฉพาะสินค้าประเภทอัญมณีเเละเครื่องประดับ

4. ประเมินพนักงานขายว่ามีความรู้ไหม เต็มใจพูดคุยถึงข้อดีข้อเสียของสินค้าไหม

5. ไม่ต้องรีบร้อนและอย่าปล่อยให้พนักงานกดดันให้ท่านซื้อสินค้า

6. ขอใบเสร็จรับเงินพร้อมใบรับรอง/ใบรับประกันสินค้าที่ซื้อเเละตรวจสอบว่าถูกต้องก่อนออกจากร้าน

7. สุดท้าย คำเเนะนำที่ดีที่สุด คือซื้อสิ่งที่ท่านชอบ ยกตัวอย่าง อย่าซื้ออัญมณีหรือเครื่องประดับเพื่อขายเก็งกำไรหรือลงทุน อาจเป็นไปได้เเต่ไม่มีการรับประกัน จงซื้อหาเพื่อความพอใจไม่ใช่เพื่อเก็งกำไร

คำแนะนำในการเลือกซื้อเพชร

ก่อนซื้อเพชร ควรรู้จักและทำความเข้าใจถึงคุณลักษณะ 4 ประการ (4Cs) ของเพชร ที่พ่อค้าอัญมณีใช้เป็นบรรทัดฐานในการจัดเกรดเพชร ได้แก่

การเจียระไน : เพชรที่เจียระไนได้สัดส่วนจะเปล่งประกายงดงามเจิดจรัสได้มากกว่า เพชรเจียระไนได้หลายรูปร่าง (เช่น กลม สี่เหลี่ยม หัวใจ ฯลฯ)เพชรรูปกลมมีความคลาสสิคและได้รับความนิยมมากที่สุด

สี : เพชรส่วนใหญ่มีหลายเฉดสีตั้งเเต่ไร้สีจนถึงสีเหลือง โดยเรียงลำดับจาก D ถึง Z* เพชรไร้สีจะหายากที่สุด D E F คือ เพชรไร้สี...G H I J คือ เกือบไร้สี K L M คือเพชรสีนวล N O P Q R คือเพชรสีเหลืองอ่อนมากๆ S-Z คือ เพชรสีเหลืองอ่อน นอกจากนี้เพชรยังมีสีอื่นๆ เช่น เหลือง ส้ม ชมพู ฟ้า ฯลฯ ความเข้มของเฉดสีเหล่านี้ เรียกกันว่า “สีแฟนซี”

ความสะอาด/ความบริสุทธิ์ : เพชรทุกเม็ดมีเอกลักษณ์ประจำตัวเเต่ส่วนใหญ่จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ภายใต้แว่นขยาย 10 เท่า ความสะอาดของเพชรจะเเบ่งเป็น 6 ระดับ FL คือเพชรไร้ตำหนิ IF คือเพชรไร้ตำหนิภายใน VVS1 VVS2 คือเพชรที่มีตำหนิน้อยมากๆ..VS1 VS2 คือเพชรที่มีตำหนิน้อยมาก..SI1 SI2 คือเพชรที่มีตำหนิเล็กน้อย..I1 I2 I3 คือ เพชรที่มีตำหนิเด่นชัด

นํ้าหนักะรัต : น้ำหนักหรือขนาดของเพชรถูกวัดเป็นกะรัต 1 กะรัตหนัก 0.2 กรัม เเละมี 100 สตางค์ (หรือ 200 มิลลิกรัม) ต่อกะรัต

ขอให้ระมัดระวังเพชรเลียนเเบบมากมาย ได้เเก่ คิวบิกเซอร์โคเนีย มอยซาไนต์สังเคราะห์ รูไทล์สังเคราะห์ สตรอนเชียมไททาเนต โทพาซไร้สี เเซฟไฟร์ไร้สี ฯลฯ การทดสอบโดยการขีดกระจกไม่มีประโยชน์ เพราะเพชรเลียนเเบบจำนวนมากซึ่งขีดกระจกได้เช่นกัน ควรปรึกษาพ่อค้าเครื่องประดับมืออาชีพ เพื่อให้แน่ใจว่าได้เพชรเเท้ หากท่านกำลังจะลงทุนก้อนโตในเพชร ขอให้มั่นใจว่าท่านได้รับใบรับรองการตรวจสอบเพชรจากสถาบันตรวจ วิเคราะห์อัญมณีที่มีชื่อเสียง

คำแนะนำในการเลือกซื้อทับทิม / ไพลิน

คุณภาพเเละมูลค่าของทับทิม / ไพลิน ขึ้นอยู่กับการผสมผสานของตัวชี้วัดต่อไปนี้

น้ำหนัก : นํ้าหนักของทับทิม / ไพลิน ถูกวัดเป็นกะรัต 1 กะรัต เท่ากับ 0.2 กรัม ทับทิม/ไพลิน เม็ดยิ่งใหญ่และมีน้ำหนักมาก ยิ่งหาได้ยาก

การเจียระไน : เป็นการอ้างอิงถึงความถูกต้องของเหลี่ยมมุม สัดส่วนสมมาตรเเละการขัดเงาของทับทิม/ไพลิน ซึ่งมีผลอย่างมากต่อการตกกระทบของเเสงภายในทับทิม/ไพลิน เเละประกายเจิดจรัสที่สะท้อนออกมา เพื่อใช้ประโยชน์จากพลอยก้อนตามธรรมชาติและรักษาน้ำหนักทับทิม/ไพลิน จึงถูกเจียระไนเป็นรูปร่างต่างๆมากมายตามที่เเสดงให้เห็นข้างล่าง

สี : เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล ทับทิมมีสีเเตกต่างกันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของธาตุโครเมียมเเละเหล็กเป็นสำคัญ ในขณะที่ไพลินมีสีเเตกต่างกันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของธาตุไทเทเนียมเเละเหล็กเป็นสำคัญ ดังนั้น ทับทิม/ไพลินจากเเต่ละประเทศ* เเละเเต่ละเหมืองจึงมีสีเเตกต่างกัน

ทับทิม : มีสีเเดงบริสุทธิ์ หลายเฉดตั้งเเต่ เเดงน้ำตาล เเดงม่วง จนถึงเเดงส้มเเละเเดงชมพู

ไพลิน : มีสีน้ำเงินบริสุทธิ์ หลายเฉด ตั้งเเต่สีน้ำเงินเข้ม น้ำเงินม่วง น้ำเงินเขียว เเละน้ำเงินเหลือง เเต่ ทับทิม / ไพลิน สีธรรมชาติจะมีมูลค่ามากกว่า ทับทิม / ไพลิน ที่ผ่านการเผาหรือกระบวนการอื่นๆ

ความใสสะอาด : ทับทิม / ไพลิน ถูกกำหนดโดยปริมาณ ขนาดเเละตำเเหน่งของตำหนิมลทิน ที่มีอยู่ในเนื้อพลอยตามธรรมชาติ ที่สะท้อนให้เห็นลักษณะการกำเนิดทางธรณีวิทยาทั้งภายในเเละภายนอกที่น่าสนใจ รอยเเยก รอยเเตก เเละโพรงที่มีอยู่อาจมีผลต่อความใสสะอาดของพลอยนั้นๆ

ความโปร่ง : เป็นการอ้างอิงถึงความสามารถของทับทิม / ไพลินในการถ่ายทอดเเสง ซี่งเป็นผลจากตัวพลอยที่ไม่ทึบเเสงเเละมีประกายเจิดจรัสแบ่งออกเป็น โปร่งใส โปร่งแสง และทึบแสง

การปรับปรุงคุณภาพอัญมณี

นอกจากการเจียระไนเเละการขัดเงาเเล้ว โดยทั่วไป ทับทิม/ไพลิน จะผ่านการปรับปรุงสีเเละความใสสะอาด ลูกค้าจึงต้องได้รับการบอกกล่าวเกี่ยวกับการปรับปรุงคุณภาพลักษณะนี้ จงขอคำยืีนยันที่เป็นลายลักษณ์อักษรในเรื่องนี้ การเรียกชื่อพลอยที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพในเเบบต่างๆ มีอยู่ในหนังสืออัญมณีของ CIBJO


มูลค่าของอัญมณี

นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว มูลค่าของอัญมณียังถูกกำหนดโดยการผสมผสานของความงดงาม ความหายาก เเละความคงทน อัญมณีสังเคราะห์เเละอัญมณีที่ทำเลียนเเบบสามารถผลิตได้ในโรงงาน จึงไม่ใช่ของหายาก เเละไม่ใช่อัญมณีที่มีคุณค่า ดังนั้นจึงมีราคาถูกกว่าอัญมณีเเท้ตามธรรมชาติที่มีลักษณะเหมือนกัน


คำแนะนำในการเลือกซื้อมรกต

มรกตเป็นแร่เบริลชนิดหนึ่งที่มีสีเขียวถึงเขียวเข้มแกมน้ำเงิน สีเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการตั้งมูลค่าและคุณภาพของมรกตธรรมชาติ ซึ่งมีสีเขียวหลากหลายเฉดสี ตั้งแต่เขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม หรือแม้แต่เขียวแกมเหลือง หรือเขียวแกมน้ำเงิน สีที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดคือ สีเขียวสด หรือเขียวแกมน้ำเงินที่มีความสดชัดทั่วทั้งเม็ดไม่อ่อนหรือเข้มจนเกินไป หากมีสีเหลืองมากกว่าสีเขียวหรือมีสีน้ำเงินมากกว่าสีเขียว มักจะไม่เรียกว่าเป็นมรกต แต่เรียกเป็นเบริลสีอื่นแทน

โดยธรรมชาติ มรกตมักมีตำหนิมลทินภายในที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงการค้า แต่ถ้าตำหนิมลทินมีมากจนเกิดผลเสียต่อความโปร่งแสงและความใสสะอาด หรือความทนทานของมรกตเม็ดนั้น มูลค่าของมรกตจะลดลงไป มรกตที่มีความสะอาดมากเมื่อมองเห็นด้วยตาเปล่าจะมีมูลค่ามากและหายาก อย่างไรก็ตามมรกตที่ไม่มีตำหนิมลทิน หรือรอยแตกร้าวเลยให้พึงระวังว่าอาจเป็นมรกตสังเคราะห์หรืออัญมณีเลียนแบบ

การเลือกซื้อไข่มุก

การประเมินมูลค่าของไข่มุก สิ่งแรกที่ควรรู้คือประเภทของไข่มุก ซึ่งมีลักษณะเฉพาะและมาตรฐานด้านราคา โดยทั่วไปไข่มุกแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ ไข่มุกน้ำจืดและไข่มุกน้ำเค็ม ไข่มุกน้ำเค็มที่รู้จักกันดี มี 3 ชนิด คือ มุก Akoya, Southsea, Black Southsea/Tahiti ในบรรดาไข่มุกหลากหลายชนิดไข่มุกน้ำเค็มมีมูลค่าสูงกว่าไข่มุกน้ำจืด นอกจากนี้ ไข่มุกยังแบ่งออกเป็น ไข่มุกธรรมชาติ ไข่มุกเลี้ยง ไข่มุกธรรมชาติมีมูลค่าสูง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีคุณภาพดีกว่าไข่มุกเลี้ยง แต่เป็นเพราะความหายากต่างหาก

ในการประเมินคุณค่าของไข่มุก สิ่งที่ต้องตรวจดูคือ ความวาวของผิว (Luster) คุณภาพหรือความหนาของเนเคอร์ (Nacre) ขนาด รูปร่าง สี และคุณภาพของผิวของไข่มุก

ความวาวของไข่มุกเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ความวาวคือปริมาณแสงที่ไข่มุกสะท้อนออกมาก ไข่มุกที่มีความวาวสูงจะสะท้อนความวาวได้ชัดจากผิวมุก ไข่มุกต่างชนิดจะมีความสามารถในการสะท้อนความวาวต่างกัน ในบรรดามุกน้ำเค็ม ไข่มุก Akoya มักมีความวาวมาก

ความวาวและคุณภาพของชั้นมุกมีความเกี่ยวข้องกันมากถ้าหากไข่มุกขุ่นมัว ผิวด้าน อาจมีชั้นมุกบาง ซึ่งส่งผลต่อความวาวและความคงทนของไข่มุก

หากทุกสิ่งทุกอย่างเท่าเทียมกัน ไข่มุกที่มีขนาดใหญ่จะมีมูลค่ามากกว่า สำหรับไข่มุกขนาดใหญ่กว่า 8-9 มม. ราคาไข่มุกมักจะเพิ่มสูงขึ้นมากไข่มุกต่างชนิดกันจะมีขนาดแตกต่างกัน ไข่มุกเลี้ยง Southsea มีขนาดใหญ่ที่สุด

โดยทั่วไปผู้เชี่ยวชาญไข่มุก จะแบ่งรูปร่างไข่มุกเป็น 4 แบบหลัก คือรูปร่างกลมและมีสมมาตร รูปร่างกลมแบนหรือกลมรีเล็กน้อย รูปร่างไม่กลมอย่างชัดเจน รูปร่างแปลกๆ และรูปร่างบิดเบี้ยวอย่างชัดเจน ไม่มีสมมาตร ไข่มุกที่ราคาแพงที่สุดคือไข่มุกรูปร่างกลมมีสมมาตรและเป็นรูปทรงที่แสดงความสวยงามของไข่มุกได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามไข่มุกรูปทรงอื่นๆ ก็มีเอกลักษณ์และนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องประดับที่น่าสนใจได้เช่นกัน

ไข่มุกมีสีหลากหลายตั้งแต่สีขาวจนถึงสีดำ โดยสีของไข่มุกเกิดจากการผสมผสานของสีพื้น โทนสี และสีเหลือบประกายรุ้งบนผิวไข่มุก สีพื้นของไข่มุกมักถูกผสมไปกับโทนสีต่างๆ อย่างสีชมพู สีเขียว สีม่วง และสีฟ้า สีพื้นที่คุ้นเคยกันมากที่สุดคือ สีขาว และสีครีม แต่สีดำ สีเทา สีเงิน ก็เป็นที่รู้จักเช่นเดียวกัน และมีทุกโทนสี ความชื่นชอบสีเป็นเรื่องของแต่ละคน ส่วนใหญ่ผู้คนจะเลือกสีที่เข้ากับผิวธรรมชาติของตนเอง

ไข่มุกที่มีผิวเรียบสะอาด สามารถสะท้อนประกายความแวววาวได้เท่ากันทั่วทั้งเม็ด ดังนั้นจึงมีราคาสูงกว่าไข่มุกที่มีรอยหรือตำหนิ อย่างไรก็ตามตำหนิหรือรอยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติบนผิวมุก ก็ไม่เป็นผลเสียต่อไข่มุก ในทางกลับกัน การที่ไข่มุกมีรอยหรือตำหนิตามธรรมชาติบางส่วน สามารถช่วยให้รู้ว่าไข่มุกเม็ดนั้นๆ เป็นของแท้

เคล็ดลับในการดูเเลรักษาอัญมณีเเละเครื่องประดับ

• การถอดเเหวนออกขณะทำงานหนักเป็นสิ่งที่ดี เเม้ว่าเพชรจะมีความทนทาน ก็อาจบิ่นหรือเเตกร้าวได้ถ้าถูกกระเเทกเเรงๆ เหงื่อไคลเเละความสกปรกจะทำให้เครื่องประดับของท่านหมองเเละไม่เเวววาว

• เมื่อท่านไม่ได้สวมใส่เครื่องประดับ ขอให้เก็บใส่กล่องเครื่องประดับที่มีผ้ารองเเละจัดเเบ่งเป็นช่องๆ

• ระวังอย่าให้เครื่องประดับของท่านถูกน้ำเกลือหรือสารเคมีรุนเเรง เช่นคลอรีน

• อย่าสวมใส่เครื่องประดับเงินลงไปในน้ำที่มีคลอรีน

• การใช้สเปรย์เเต่งผม เครื่องสำอาง โลชั่นถนอมผิวเเละน้ำหอมอาจทำให้เครื่องประดับหมอง ดังนั้นให้สวมใส่เครื่องประดับหลังจากที่ใช้สิ่งเหล่านี้เเล้วเพื่อให้เครื่องประดับคงความเเวววาว

• ให้เก็บเครื่องประดับเงินในที่แห้ง ไม่สัมผัสอากาศ ถ้าเป็นไปได้ให้ใส่ไว้ในถุงผ้ากันหมองหรือห่อด้วยผ้าหรือสักหลาดนุ่มๆ

• เป็นสิ่งที่ดี หากท่านสามารถนำไข่มุกไปที่ร้านจิวเวลรี่อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจเช็คเส้นไหมที่ใช้ร้อยไข่มุกเเละให้ร้อยใหม่เพราะการสวมใส่ตามปกติมักทำให้เส้นไหมเกิดการหย่อน

• เมื่อท่านนำไข่มุกไปร้อยใหม่ จงเเน่ใจว่ามีการผูกปมระหว่างไข่มุกเเต่ละเม็ด จะช่วยป้องกันมุกสูญหายกรณีที่เส้นไหมขาด

• จงเปลี่ยนหน้าปัดคริสตัลของนาฬิกาข้อมือเมื่อมีรอยเเตกหรือมีรอยขูดขีดทันทีเเม้รอยบิ่นที่เล็กที่สุดก็อาจปล่อยให้ฝุ่นละอองหรือความชื้นเข้าไปส่งผลให้นาฬิกาเดินไม่เที่ยงตรง

• ไข่มุก ปะการังเเละพลอยเนื้อพรุน เช่น โอปอล เทอร์คอยส์เเละมาลาไคต์ ควรเก็บให้ห่างจากน้ำมันสารเคมีเเละน้ำสกปรก เพื่อจะได้ไม่ทำให้สีซีดหมอง ควรเช็ดเบาๆ ด้วยผ้านุ่มชุบน้ำ

• ไม่ควรใช้เครื่องทำความสะอาดเเบบอัลตราโซนิกกับอัญมณีประเภทเเทนซาไนต์ โอปอล มรกต อัญมณีอินทรีย์ (ไข่มุก ปะการัง อำพัน) เทอร์คอยส์ ลาปีส มาลาไคต์ เเละพลอยอื่นๆ ที่มีตำหนิมลทินมาก

• โอปอล ไข่มุก ปะการัง อำพันเเละเทอร์คอยส์ ไม่ทนต่อความร้อน (ทั้งที่มีอุณหภูมิสูงเเละเกิดการเปลี่ยนเเปลงอุณหภูมิฉับพลัน) จีงไม่ควรวางไว้กลางเเดดร้อนจัด ใกล้หม้อน้ำหรือท่อน้ำร้อนหรือในรถยนต์ที่ร้อนจัด